บทสัมภาษณ์จาก ผศ.ดร.สุรศักดิ์ เก้าเอี้ยน กรณีนักเรียนชั้น ม.5 ก่อเหตุทำร้ายครูผู้สอน

บทสัมภาษณ์จาก ผศ.ดร.สุรศักดิ์ เก้าเอี้ยน กรณีนักเรียนชั้น ม.5 ก่อเหตุทำร้ายครูผู้สอน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีที่ไหนที่ไม่มีปัญหาเรื่องความรุนแรงในชั้นเรียนหรือในโรงเรียน แต่ประเด็นนี้เราจะพบว่านักเรียนท่านนี้ ก็มีพฤติกรรมความรุนแรงจริง แล้วก็ประพฤติผิดตามกฎระเบียบของสถานศึกษา อันนี้ก็ว่ากันไปตามกฎระเบียบ แล้วก็จากข่าวก็ชี้เห็นว่าไม่ใช่พฤติกรรมครั้งแรกที่เกิดขึ้นของนักเรียนคนนี้ในโรงเรียน ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ทําให้เราเกิดบทเรียนในอีก 2-3 ประเด็นตามมา
.
ประเด็นแรกก็คือ เราไม่ควรตั้งเป้าที่จะเริ่มต้นจากการโทษเด็กว่าทำไมเป็นคนแบบนี้ แต่เราอาจจะต้องตั้งคําถามตัวโต ๆ ในเรื่องของการปลูกฝังหรือการเลี้ยงดูจากครอบครัว รวมถึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวของเด็กว่า นักเรียนคนนี้เติบโตมาจากสิ่งแวดล้อมแบบใด ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กที่อาจจะทําให้เขาเห็นต้นแบบ (Role Model) ของการใช้ความรุนแรง ทั้งจากการเลี้ยงดู หรือการจัดการสิ่งแวดล้อมรอบตัวเขา ที่ทําให้เขาได้เรียนรู้เรื่องพฤติกรรมความรุนแรงเช่นนี้
.
การส่งเสริมเด็กให้เติบโตและสามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างปกติสุข ไม่เพียงแต่จะหนุนเสริมให้เขาได้มีพัฒนาการทาง IQ อย่างเต็มความสามารถของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังต้องส่งเสริมให้มีการพัฒนา Jigsaw อีก 3 ตัว เข้าไปด้วย คือ ความฉลาดทางสังคม (SQ : Social Quotient) ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ : Emotional Quotient) และความฉลาดในการรับมือกับปัญหา (AQ : Adversity Quotient) ความฉลาดทั้ง 3 ตัวนี้ที่จะเป็นภูมิคุ้มกันทางสังคมในการที่จะป้องกันตัวเองจากการใช้และการได้รับความรุนแรงทุกรูปแบบ เขาจะรู้ว่าเขาควรจะต้องปฏิบัติอย่างไรเมื่อเผชิญภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการกระตุ้นให้ใช้ความรุนแรง หรืออยู่ในภาวะที่จะเป็นเหยื่อของความรุนแรง
.
ประเด็นต่อมาที่เราได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ ก็คือการใช้กระบวนการวัดและประเมินผลการเรียน อาจจะเห็นว่าเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจากการตั้ง self-concept ของตนเองต่อการรับการประเมินผลว่าจะต้องได้คะแนนเต็ม คือเด็กไทยส่วนใหญ่ได้ยินแล้วคิดว่าถ้าได้ 18 คะแนนจากคะแนนเต็ม 20 คะแนน น่าจะไปแก้บนหรือปิดซอยเลี้ยงกันแล้ว แต่ว่าตัวน้องเขากลับไม่พอใจ ส่วนนี้อาจเป็นที่ตัวแปรทางจิตวิทยา คือ ความต้องการสมบูรณ์แบบ (Perfectionist) ซึ่งอาจทำให้เขาผูกมัดตัวเองกับกับข้อตกลงนี้ ซึ่งน่าจะมีสิ่งที่เป็นเบื้องหลัง เช่น ประสบการณ์ของการได้รับความสุขจากการได้รับความสมบูรณ์แบบ หรืออาจเป็นความกดดันที่อยากได้ความสมบูรณ์แบบเพื่อให้ได้รับความชื่นชมจากครอบครัวหรือคนรอบข้าง ส่วนนี้สังคมควรเข้าใจถึงคุณลักษณะส่วนนี้ที่อาจไปกระตุ้นให้เขาได้รับความกดดัน แต่เป็นเพราะไม่รู้วิธีแสดงออกที่เหมาะสมจนกลายเป็นเรื่องราวตามข่าว
แล้วก็ประเด็นสำคัญอีกประเด็นก็คือ การสะท้อนภาพของการวัดและประเมินผลทางการศึกษา เราน่าจะกําลังเห็นผลของการใช้กระบวนการวัดและประเมินผลผิดวิธีอยู่ เราควรใช้ผลการวัดและประเมินผลในการวิเคราะห์สภาพการเรียนรู้ในปัจจุบันเพื่อออกแบบวิธีการพัฒนาการเรียนรู้ให้ดีขึ้นจากเดิม แต่หากเข้าใจไปว่าการวัดและประเมินผลเป็นหลักฐานสำคัญของการตัดสินว่าเราจะได้รับสิทธิพิเศษทางการศึกษาอะไรไหม (educational privilege) เช่น ได้รับทุนการศึกษา ได้รับโควตาเข้าเรียนเป็นอันดับหนึ่งของรุ่น อะไรประมาณนี้ แสดงว่าเขากําลังถูกระบบการวัดประเมินผลในครอบงําไปในทางที่ผิด ซึ่งจะเห็นว่าหลาย ๆ ครั้งในแวดวงการศึกษา เรามีการใช้ผลการวัดประเมินผลเป็นตัวตัดสินตัวผู้เรียนไปแล้วว่าเรียนได้ดีหรือไม่ดี ทําให้เราอาจจะต้องมองกลับมาทบทวนว่ากําลังใช้ผลการวัดประเมินผลทางการศึกษาในแง่มุมที่ถูกวิธีถูกทางหรือไม่
.
ประเด็นสุดท้ายที่เราได้เรียนรู้ก็คือ ในมุมมองของสิทธิเด็ก เราจะเห็นการละเมิดสิทธิของน้องนักเรียนคนนี้จากการเผยแพร่ข้อมูลที่แพร่สะพัดในโลกออนไลน์ ถึงแม้ว่าจะมีการเบลอภาพของนักเรียน พยายามปกปิดชื่อนักเรียน และสถานศึกษา แต่ในบางแพลตฟอร์มมีการขุดคุ้ยจนกลายเป็น digital footprint ที่อาจทำให้เกิดปมที่กระทบต่อสิทธิของน้องคนนี้ไปตลอดชีวิต และทำให้เกิดภัยคุกคามตามมา จริง ๆ เราสามารถใช้โซเชียลอย่างมีสติ เพื่อเน้นในการส่งต่อข่าวสารได้ แสดงความคิดเห็นกันได้ แต่ต้องรู้ทันเท่าไม่ขุดคุ้ยเพื่อความสะใจที่จะขายให้ได้ยอดไลก์ ยอดวิว หรือการรีทวิต ทำให้เด็กคนหนึ่งจากเดิมที่เป็นผ้าขาวแต่ถูกแต่งแต้มโดยผู้ใหญ่ใกล้ตัว จนกลายเป็นแบบนี้ แล้วยังต้องตกเป็นเหยื่อของภัยทางโซเชียลมีเดียอีกด้วย อยากให้คนในสังคมมีความใจดี (Be kind) กับคนอื่นที่คุณกำลังจะแสดงความคิดเห็น เพื่อให้เขายังมีที่ยืนในสังคมต่อไปได้

Related Blogs

Posted by editor | August 20, 2025
คู่มือการดำเนินงานโครงการพาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง
จัดทำโดย : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน อ่านและดาวน์โหลด
Posted by editor | July 2, 2025
EVALI คือโรคอะไร?
.EVALI (E-cigarette or Vaping Product Use-Associated Lung Injury) เป็นภาวะปอดอักเสบรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นที่รู้จักครั้งแรกจากการระบาดในสหรัฐอเมริกาในปี 2019-2020 (พ.ศ. 2562-2563) โดยพบสถิติที่น่าตกใจ ดังนี้- มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 68 ราย- ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลกว่า 2,800 ราย- ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวอายุต่ำกว่า 35 ปี.สาเหตุหลักมาจากการสูดดมสารบางชนิดที่อยู่ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของวิตามินอีอะซิเตต (Vitamin E Acetate) หรือ THC เข้าไปในปอด...
Posted by editor | July 2, 2025
สถานการณ์บุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียนอาชีวศึกษา: วิกฤตที่กำลังถูกมองข้าม
https://youtu.be/kbZzvHVWVfQ สัมภาษณ์พิเศษจาก ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคราชสิทธารามและคุณครูผู้ใกล้ชิดนักเรียน บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่แค่ปัญหาสุขภาพ แต่กำลังกลายเป็นวิกฤตในสถานศึกษา มาฟังมุมมองจริงจากผู้ที่อยู่แนวหน้า พร้อมแนวทางป้องกันและแก้ไข . #บุหรี่ไฟฟ้า #อาชีวะไทย #วิทยาลัยเทคนิคราชสิทธาราม #หยุดยั้งก่อนสาย #เสียงจากครู #เด็กไทยปลอดภัย