ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างความตระหนักรู้และทักษะการป้องกันการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน
ผ่านการพัฒนาชุดสื่อการเรียนรู้และกิจกรรมที่ออกแบบมาให้ครูสามารถนำไปถ่ายทอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้กรอบแนวคิดด้านจิตวิทยา เช่น
กรอบความคิดแบบเติบโต (growth mindset) การรับรู้ความสามารถของตนเอง (self-efficacy) และการตั้งเป้าหมาย (goal setting)
เพื่อให้เยาวชนสามารถจัดการกับแรงกดดันหรือสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
อีกทั้งยังส่งเสริมการอบรมครูเพื่อใช้ชุดสื่อและกิจกรรมดังกล่าวอย่างคล่องตัว ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครอง ผู้นำชุมชน
และสังคมโดยรอบมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและสร้างสภาพแวดล้อมปลอดภัย
ผู้ที่ได้รับควันบุหรี่ไฟฟ้ามือสองจากการที่มีคนในบ้านสูบ มีแนวโน้มจะป่วยเป็นหลอดลมอักเสบเพิ่ม 40% และอาการหายใจลำบากเพิ่ม 53% และที่สำคัญผลของการได้รับควันบุหรี่ไฟฟ้ามือสองนี้จะยิ่งปรากฎชัดเจนขึ้นในคนที่ไม่เคยมีประวัติสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้ามาก่อน ซึ่งในกลุ่มนี้หากได้รับควันบุหรี่ไฟฟ้ามือสองในบ้านจะเพิ่มความเสี่ยงเกิดหลอดลมอักเสบสูงขึ้นถึง 3 เท่า ที่มา : สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย
ที่มา : มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ASH THAILAND
ที่มา : มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ASH THAILAND
ที่มา : สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย
อ่านทั้งหมด ที่มา : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (2564)
คลิกเพื่ออ่านทั้งหมด ที่มา : มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ASH THAILAND
คลิกเพื่ออ่านทั้งหมด ที่มา : มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ASH THAILAND
คลิกเพื่ออ่านทั้งหมด ที่มา : เครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ สสส.
คลิกเพื่ออ่านทั้งหมด ที่มา : เครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ สสส.